บันทึกBOOKTALK : หนังสือคิดมากไปหรือเปล่า?
บันทึก BOOKTALK : หนังสือคิดมากไปหรือเปล่า?
สรุปเนื้อหากิจกรรม BOOKTALK บรรยายโดยคุณศรศวัส มลสุวรรณ (นามปากกา คิดมาก)
1 กันยายน 2561 ณ ห้องสมุดพระองค์เจ้าวิวัฒนไชย
"คุณเชื่อในพลังความคิดหรือเปล่า?"
คุณศร - ศรศวัส มลสุวรรณ หรือ คุณ "คิดมาก" นักเขียนบนโลกออนไลน์ที่มีแฟนๆติดตามในทวิตเตอร์ @kidmakk กว่า 1.7 ล้านราย เจ้าของผลงานเขียน "คิดมากไปหรือเปล่า?" เปิดกิจกรรม Booktalk FES the series เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ด้วยการ "ชวนคิด" เรื่อง "พลังความคิด"
คุณศรบอกว่ามนุษย์เรา "คิด" อยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งเวลาหลับที่ความคิดแปลงร่างมาเป็นความฝัน
ในยุคที่เทคโนโลยีกำลังเบ่งบาน การเกิดขึ้นของปัญญาประดิษฐ์เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คน คุณศรบอกว่า ความคิดนี่แหล่ะคือ AI ของเราทุกคน
และเจ้าความคิดนี้ล้วนมีอิทธิพลต่อชีวิตของเรามากมายเหลือเกิน
ความทุกข์เกิดขึ้นได้ตั้งแต่ตอนที่เรื่องราวยังไม่เกิด และหลายครั้งความทุกข์ก็ยังคงอยู่แม้เรื่องราวเหล่านั้นจะผ่านไปแล้ว
ขณะที่ความทุกข์เปรียบเหมือนกับท้องฟ้าตอนกลางคืน ในความมืดมิดนั้นเราก็สามารถมองเห็นดวงดาวดวงเล็กๆได้หากเราเลือกที่จะมอง
ดังนั้นการจัดการกับความรู้สึก ต้องรู้ตัวเองก่อนว่าเราไม่อาจครอบครองทุกสิ่งได้
ต้องรู้ว่าใคร สิ่งไหน เมื่อไหร่ที่เราควรต้องปล่อยไป
เมื่อสุข – เศร้าคือธรรมดาของชีวิต และในหลายๆครั้งความเศร้านั้นจริงยิ่งกว่าความสุข
การเผชิญกับความเศร้าจึงไม่ใช่เรื่องเลวร้าย ไม่ต้องพยายามพาตัวเองออกมา แต่เราต้องอยู่กับมันให้ได้ เพราะทุกความเศร้าทำให้เกิดบทเรียน ทำให้เราตกตะกอน ฉะนั้น...เศร้าให้พอแล้วให้ชีวิตได้ไปต่อ
ไม่มีความเศร้าใดในโลกใบนี้ที่สูญเปล่า ขณะเดียวกันกับที่ ไม่มีความรู้สึกใดคงอยู่ไปตลอดกาล
ไม่ว่าจะสุขหรือเศร้า...และแล้วสิ่งนั้นก็จะผ่านไป
คุณศรแชร์ประสบการณ์ชีวิตที่เริ่มขึ้นก่อนที่เขาจะลืมตาดูโลก
คุณแม่คุณศรตั้งครรภ์คุณศรตอนอายุ 38 ปี ขณะตั้งครรภ์คุณแม่มีอาการเจ็บป่วยทำให้คุณศรที่คลอดออกมามีปัญหาขาซ้ายอ่อนแรงมาตั้งแต่กำเนิด ต้องใช้ไม้ค้ำยันช่วยเดินมาจนทุกวันนี้
แต่ความไม่พร้อมของร่างกายก็ไม่ได้ทำให้เด็กชายศรศวัสในวันนั้นหยุดฝันที่จะเป็นนักกฏหมายและนักเขียน
จนวันนี้เขาได้ทำ ได้เป็นทุกอย่างที่ฝันไว้
"ถ้าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ก็จะเห็นแต่ปัญหาและอุปสรรค
ต้องขีดฆ่าคำว่า เป็นไปไม่ได้ ออกไปเพราะชีวิตเราอยู่ที่ตัวเรา"
สูตรนี้เชื่อมโยงกับกฏของแรงดึงดูด (Law of Attraction) ถ้าเราโฟกัสที่เรื่องไหน เราก็จะเห็นแต่เรื่องนั้นๆ
เช่นเดียวกัน ถ้าเรามองแต่เรื่องลบๆ เราก็จะเห็นแต่เรื่องลบอยู่รอบตัว
คุณศรเล่าถึงคำอวยพรจากผู้ใหญ่ที่เขารักและเคารพ เป็นพรปีใหม่ที่เตือนใจคุณศรว่า
"หากเจอความมืด ขอให้เธอสว่างออกไป... แต่ถ้าเจอความสว่าง ขอให้เธอสว่างออกไปให้มากกว่า"
เราเลือกไม่ได้ว่าจะเจอกับอะไร แต่เราเลือกที่จะมองและรับมือกับเรื่องนั้นๆได้
เครื่องหมายไปยาลใหญ่ "ฯลฯ" เมื่อต่อท้ายประโยคไหน เราจะเข้าใจได้ว่ายังมี"อื่นๆอีกมากมาย"นอกเหนือจากที่กล่าวไว้แล้ว
ซึ่งวลีที่ว่า "อื่นๆอีกมากมาย" นี้ ชวนให้เขานึกถึงนิตยสารดังในอดีตอย่างนิตยสาร "ไปยาลใหญ่" รวมถึงบทเพลง "อื่นๆอีกมากมาย" ของวงเฉลียงที่แต่งโดยคุณประภาส ชลศรานนท์
...อาจจะจริงเราเห็นอยู่
เผื่อใจไว้ที่ยังไม่เห็น...
ยิ่งย้ำชัดว่า แต่ละเรื่องนั้นมีอะไรให้มองได้หลากหลายมุม เพราะยังมี "อื่นๆอีกมากมาย" ที่เรา "ยังไม่เห็น"
มีการแสดงมายากลครั้งหนึ่งที่คาดเดาความคิดของผู้ชมด้วยการประมวลข่าวในหนังสือพิมพ์ช่วงเวลานั้น รวมถึงกลสะกดจิตคนป่วยให้รู้สึกว่าอาการดีขึ้นได้ชั่วขณะ
เหล่านี้ล้วนเป็นผลของการใส่ชุดความคิดชุดหนึ่งเข้าไปสู่การรับรู้
ดังนั้นตัวตนของเรา เราจะเป็นอะไรอยู่ที่เรานิยามตัวเอง
หาก "นิติกร" นิยามตัวเองว่าเป็น "ผู้พิพากษาศาลชั้นต้น" การทำงานจะละเมียดลไมและเห็นคุณค่าของงานที่ทำอยู่มากขึ้น
จงนิยามตัวเอง ไม่ใช่ให้ใครเขียนให้
การจะทำอะไรให้ประสบความสำเร็จ อีกเคล็ดลับสำคัญคืออย่าหยุดทำ ทำต่อเนื่องและต้องไม่รอโอกาส
แล้วสิ่งที่ทำจะผลิดอกออกผลในที่สุด
คุณศรฝากทิ้งท้ายไว้ว่า อยากให้ทุกคน 'คิดแบบไปยาลใหญ่ ทำแบบไม้ยมก'
คือคิดให้รอบด้านแล้วลงมือทำซ้ำๆ สม่ำเสมอ
คิดรอบด้านคือคิดแบบเห็นทั้งด้านบวก-ลบ แล้วเลือกหยิบเอามุมบวกมาเป็นพลังในการเดินหน้าต่อ
ทำซ้ำๆ คือทำต่อเนื่อง ไม่ยอมแพ้หรือละทิ้งไประหว่างทาง
เพียงเท่านี้เราก็สามารถใช้ชีวิตอย่างรู้เท่าทันสุข – ทุกข์
พร้อมกับเป็นสิ่งแวดล้อมที่ดีให้แก่กันและกัน